5 ประโยชน์ของสปอร์ตไลท์ LED กลางแจ้ง

5 ประโยชน์ของสปอร์ตไลท์ LED กลางแจ้ง สปอร์ตไลท์ LED เป็นโซลูชันแสงสว่างกลางแจ้งที่ยอดเยี่ยมพร้อมคุณประโยชน์มากมาย ด้วยการใช้สปอร์ตไลท์ LED คุณจะประหยัดพลังงาน ประหยัดเงิน ในขณะที่ได้แสงที่สว่างกว่า สปอร์ตไลท์เป็นไฟสำหรับภายนอกอาคาร สามารถนำไปใช้กับสถานการณ์ต่างๆ มากมาย เช่น การรักษาความปลอดภัย งานโชว์ศิลปะ หรือการให้แสงสว่างเฉพาะจุดในบ้านของคุณ สปอร์ตไลท์ LED มีประโยชน์มากมายทำให้เป็นตัวเลือกแสงภายนอกที่ดีกว่าสำหรับบ้านหรืออาคารตึกของคุณ

1. สปอร์ตไลท์ LED ใช้งานได้หลากหลาย

สปอร์ตไลท์ LED มีกำลังไฟฟ้าวัตต์และค่าแสงให้เลือกมากมาย ปัจจุบันแบรนด์ส่วนใหญ่มีสปอร์ตไลท์ขนาด 10 วัตต์ สปอร์ตไลท์ขนาด 30 วัตต์ ไปจนถึงสปอร์ตไลท์ขนาด 100 วัตต์สำหรับใช้ในบ้าน คุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมอีกอย่างของสปอร์ตไลท์ LED คือมีชิป RGB หมายความว่าสามารถผลิตสีได้มากกว่า 16 สีในโหมดต่างๆ สีที่หลากหลายเหล่านี้สามารถช่วยสร้างบรรยากาศงานปาร์ตี้

2. การซื้อสปอร์ตไลท์ LED ที่คุ้มค่า

แม้ว่าจะมีต้นทุนเริ่มต้นก็ตาม สปอร์ตไลท์ LED เป็นการลงทุนระยะยาว พวกเขาจะช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟฟ้าได้ถึง 88% โดยเฉลี่ย และจะมีค่าติดตั้งและบำรุงรักษาต่ำมากหรือไม่มีเลย สำหรับปริมาณพลังงานที่ประหยัดได้ในบิล คุณจะได้รับความสว่างมากขึ้น LED มีเอาต์พุตลูเมนที่สูงกว่าหลอดไฟทั่วไปเสมอ ทำให้ใช้พลังงานน้อยลงมากในขณะที่ให้ลำแสงที่สว่างกว่า

3. ให้ความสว่างที่ดีกว่า

ตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมจากสปอร์ตไลท์ LED คือสามารถให้ลำแสงในเวลากลางวันได้ สำหรับไฟภายนอก ค่าแสงขาวกลางแจ้งที่สว่างสดใสเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม ลำแสงที่ส่องสว่างในเวลากลางวันสามารถใช้ร่วมกับเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวที่สามารถสร้างไฟที่รักษาความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมได้ เนื่องจากการครอบคลุมมุมกระจายแสงที่กว้างขึ้นของสปอร์ตไลท์

4. ความทนทาน

โคมสปอร์ตไลท์ LED เป็นไฟกลางแจ้งที่มีคุณภาพสูงเนื่องจากความทนทาน สปอร์ตไลท์ LED ทนทาน 2 แบบ ชิป LED และดีไซน์ของไฟ ไฟ LED ทำงานได้ดีในที่เย็น เป็นที่รู้กันว่า LED ทำงานได้ดีถึง -50°C เมื่อพูดถึงตัวโคมไฟและการออกแบบ ตัวพลาสติกธรรมดาที่มีการระบายอากาศอาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากพลาสติกจะทำงานได้ดีในทุกสภาพอากาศและโคมกระจายความร้อนได้ดี

5. อายุการใช้งานที่ยาวนาน

จุดขายหลักอย่างหนึ่งของไฟสปอร์ตไลท์ LED คืออายุการใช้งานที่ยาวนาน อายุการใช้งานของสปอตไลท์ LED อยู่ที่ประมาณ 20,000-50,000 ชั่วโมง เมื่อเทียบกับหลอดไฟแบบดั้งเดิมที่อยู่ที่ประมาณ 1,000 - 3,000 ชั่วโมง วิธีที่ดีที่สุดในการระบุ LED ที่มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นคือการมองหาแสงที่มีการระบายความร้อนที่ดีกว่า เนื่องจากความร้อนเป็นสิ่งที่ลดอายุการใช้งานของ LED และการป้องกันไม่ให้ความร้อนออกจากชิปจะทำให้อายุการใช้งานของแสงยาวนานขึ้น

การเลือกสปอร์ตไลท์ LED กลางแจ้ง

สปอร์ตไลท์ LED กลางแจ้งที่มีการติดตั้งที่เหมาะสมและข้อกำหนดที่ถูกต้องสามารถให้แสงคุณภาพสูงสำหรับอาคารพาณิชย์หรือที่อยู่อาศัย คุณสมบัติที่ดีที่สุดของไฟสปอร์ต LED คือความสว่างและการครอบคลุมที่กว้าง ทำให้สามารถใช้เป็นไฟส่องสว่าง งานอีเวนต์ หรือไฟรักษาความปลอดภัย ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณต้องการ อย่างไรก็ตาม ด้วยตลาดที่อิ่มตัวในแบรนด์ต่างๆ สิ่งสำคัญคือต้องเลือกสปอร์ตไลท์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ หากคุณต้องการเน้นแสงที่หน้าบ้าน สปอร์ตไลท์ LED 500W อาจมากเกินไป และฟลัดไลท์ LED 50W อาจเพียงพอ ดังนั้นเพื่อค้นหาฟลัดไลท์ที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งาน จะต้องมองหาคุณสมบัติหลักบางประการเพื่อทำการซื้อที่ดีที่สุด

ความเหมาะสมกับการใช้งานสปอร์ตไลท์ LED

ก่อนที่จะดูข้อมูลเฉพาะของลูเมนและ สปอร์ตไลท์ LED สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาว่าติดตั้งไฟสปอร์ตไลท์เพื่ออะไร ? หากใช้ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย อาจต้องการการครอบคลุมลำแสงที่สว่างกว่า หากต้องการให้แสงสว่างเฉพาะจุดในสวนหรือในบ้าน อาจต้องการลำแสงขนาดเล็กที่ทรงพลังน้อยกว่า

ไฟรักษาความปลอดภัยกลางแจ้ง : สำหรับไฟรักษาความปลอดภัย จะต้องการแสงที่สว่าง ครอบคลุมกว้าง และปฏิกิริยาตอบสนอง สปอร์ตไลท์จำนวนมากสามารถให้ความสว่างและครอบคลุมลำแสงกว้างได้ วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือการซื้อไฟรักษาความปลอดภัยที่มีไฟฟลัดไลท์ LED แต่อาจไม่สว่างเท่าหรือครอบคลุมกว้างเท่า วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด หากกำลังมองหาความสว่างและการครอบคลุมที่สูงกว่า คือติดตั้งฟลัดไลท์ LED เข้ากับเซ็นเซอร์จับความเคลื่อนไหวเพื่อให้เป็นปฏิกิริยา ซึ่งทำให้ได้รับแสงรักษาความปลอดภัยที่สว่างมากและมีประสิทธิภาพ

การจัดไฟแบบเน้นแสง : การจัดไฟแบบเน้นแสงด้วยสปอร์ตไลต์อาจทำได้ยาก เน้นโครงสร้างของบ้าน ทางเข้า หรือซุ้มประตู ฯลฯ ขอแนะนำให้ใช้เลนส์กระจายแสงเนื่องจากเลนส์เหล่านี้จะกระจายลำแสงออกจากจุดกึ่งกลางและให้ขอบแสงที่นุ่มนวล เมื่อซื้อเลนส์แบบกระจาย ให้ตรวจสอบประสิทธิภาพเนื่องจากอาจแตกต่างกันระหว่าง 50%-70%

การจัดแสงสำหรับกิจกรรม :  การจัดแสงแบบสม่ำเสมอ เช่น การจัดแสงเฉพาะจุด การรวมสปอร์ตไลท์ LED 10วัตต์เข้ากับสปอร์ตไลท์ 50 วัตต์และ 100 วัตต์จะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างบรรยากาศปาร์ตี้ที่ยอดเยี่ยม กำลังวัตต์อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าเป็นงานเลี้ยงในร่มหรือกลางแจ้ง ต้องใช้ไฟและพลังงานมากขึ้นภายนอก สิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับสปอร์ตไลท์ LED คือการควบคุมจากระยะไกล มาพร้อมกับสีสันและการตั้งค่าต่างๆ ที่สร้างบรรยากาศปาร์ตี้

ข้อมูลจำเพาะที่ควรมองหาในสปอร์ตไลท์ LED

สปอร์ตไลท์ LED จะต้องประหยัดพลังงาน ทนทาน สว่าง และมีขนาดที่เหมาะสม ลองมาดูคุณลักษณะหลักแต่ละข้อเพื่อให้ได้แนวคิดที่ดีขึ้น

ประหยัดพลังงาน:  การประหยัดพลังงานเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักสำหรับการใช้ไฟ LED ทุกประเภท สำหรับฟลัดไลท์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น คุณต้องดู 3 สิ่ง: ชิป LED โครงสร้างของแสง และประสิทธิภาพการกระจายความร้อน

ชิป LED: SMD & COB: มีประโยชน์สำหรับไฟ LED ที่ใช้ COB หรือ SMD การจัดวางและการใช้ไดโอดหลายตัวทำให้ชิป SMD มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นและสร้างลำแสงที่เข้มข้นขึ้น อย่างไรก็ตาม การติดชิป LED เข้ากับบอร์ดโดยตรงทำให้สร้างความร้อนน้อยลงและประหยัดพลังงานมากขึ้น เพื่อให้ได้แสงที่สว่างที่สุดและประหยัดพลังงานที่สุด คุณต้องหาแสงที่มีทั้งสองอย่างร่วมกัน

โครงสร้างของไฟ: สำหรับสปอร์ตไลท์ภายนอก คุณต้องการสิ่งที่ทนทานแต่สามารถกระจายความร้อนได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากความร้อนเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดสำหรับไฟ LED ผู้ผลิตไฟสปอร์ตไลท์ LED ส่วนใหญ่ประสบปัญหาในการสร้างสรรค์สิ่งที่สว่าง ทนทาน และมีประสิทธิภาพในการระบายความร้อน การออกแบบแสงที่ยอดเยี่ยมควรเป็นสิ่งที่ทนทานต่อสภาพอากาศ เบา และกลวง ช่วยให้แสงมีความคล่องแคล่วและกระจายความร้อนได้ดี

ค่าความสว่าง:  ด้วย สปอร์ตไลท์ LED ความสว่างไม่ได้ดีเสมอไป ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการใช้สปอร์ตไลท์ หรือ ฟลัดไลท์ แบบไหนจะเป็นตัวกำหนดความสว่าง หากใช้ฟลัดไลท์สร้างเอฟเฟ็กต์ส่องผนังหน้าบ้าน คงไม่อยากให้แสง 5,000 ลูเมนส่องผ่านหน้าต่าง

การกระจายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ: ไฟ LED ต่างๆ จะต้องมีรูปแบบการกระจายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ และสิ่งสำคัญคือต้องหาวิธีที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุด มองหาไฟที่ช่วยกระจายความร้อนอย่างต่อเนื่อง อีกอย่างยังสามารถมองหาไฟ LED ที่ใช้เทคโนโลยีเซรามิก เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ช่วยลดความจำเป็นในการใช้ชิ้นส่วนเพิ่มเติมและกาวระบายความร้อน ทำให้แสงสร้างความร้อนน้อยลง

 

โดยรวมแล้ว ในการเลือก สปอร์ตไลท์ LED หรือ ฟลัดไลท์ LED ที่ดีที่สุด คุณต้องมองหาสิ่งที่มีประสิทธิภาพ ออกแบบมาอย่างดี และทนทาน เมื่อคุณทราบตำแหน่งที่จะวางแสงแล้ว การระบุจำนวนลูเมนที่คุณต้องการและแสงที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดจะช่วยให้คุณประหยัดเงินได้มากในระยะยาว

   

ข้อแตกต่างระหว่าง ฟลัดไลท์และสปอร์ตไลท์

ทุกวันนี้ หลอดไฟ LED ถูกใช้อย่างแพร่หลายในการใช้งานที่หลากหลาย เช่น ถนน ร้านค้าปลีกคลังสินค้า ที่จอดรถ สนามกีฬา ฯลฯ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด อาจมี ไฟ หลอดไฟ LED ประเภทต่างๆ รวมกันในการใช้งานเดียว ฟลัดไลท์และสปอร์ตไลท์เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับกลางแจ้ง เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงและต้นทุนพลังงานต่ำ แต่ดูเหมือนว่าจะสร้างความสับสนให้กับความแตกต่างของฟลัดไลท์และสปอร์ตไลท์ คุณอาจสงสัยว่าอันไหนดีกว่าสำหรับการสมัครของคุณเช่นกัน เราอยากจะแนะนำว่าฟลัดไลท์และสปอร์ตไลท์คืออะไร และความแตกต่างของสิ่งเหล่านี้ หวังว่าโพสต์นี้จะช่วยคุณได้

ประการแรก เราต้องจำไว้ว่าฟลัดไลท์และสปอร์ตไลท์เป็นรูปแบบแสง 2 แบบ ซึ่งหมายถึงการฉายแสง ในบางสถานการณ์ มีฟลัดไลท์และ
สปอร์ตไลท์ผสมกัน ทำให้เราแยกออกว่าควรใช้แบบไหนในสถานการณ์ไหน

ฟลัดไลท์คืออะไร ?

ฟลัดไลท์มีการกระจายลำแสงกว้างและความเข้มของแสงสูง เป็นแสงประดิษฐ์ที่มีช่วงการแพร่กระจายของลำแสง 45 องศาถึงประมาณ 120 องศา โคมไฟฟลัดไลท์มีการกระจายแสงสูงและไม่มีทิศทาง ส่งผลให้เกิดเงาที่นุ่มนวลและโปร่งใส ซึ่งจะจางลงอย่างช้าๆ เมื่อให้แสงสว่างแก่วัตถุ สามารถส่องสว่างพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นมุมลำแสงกว้าง โคมไฟฟลัดไลท์ส่วนใหญ่ใช้ในพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น ทางเดินรถ สนามกีฬา โกดัง สนามกีฬา ฯลฯ โดยสามารถส่องสว่างพื้นที่ได้อย่างสมบูรณ์ในสภาพแสงน้อย

สปอร์ตไลท์คืออะไร ?

สปอร์ตไลท์มีการกระจายลำแสงแคบที่น้อยกว่า 45 องศา มุมลำแสงของสปอร์ตไลท์ส่วนใหญ่มีความกว้างไม่เกิน 25 องศา ดังนั้นสปอร์ตไลท์จึงมีความเข้มข้นมากกว่าฟลัดไลท์และง่ายต่อการควบคุมทิศทางการส่องสว่างเฉพาะจุดที่คุณต้องการ สปอร์ตไลท์มักใช้สำหรับไฟตกแต่ง การส่องสว่างที่เข้มข้นเน้นรายการที่แสดงและนำบรรยากาศที่แตกต่างกัน ทั้งในร่มและกลางแจ้งใช้สปอร์ตไลท์ เช่นสวนโฆษณา นิทรรศการ งานแสดงสินค้า รูปปั้น และอื่นๆ

ความแตกต่างของฟลัดไลท์และสปอร์ตไลท์

• แบบฟอร์มการส่องสว่าง

โคมไฟฟลัดไลท์มีการกระจายและกระจัดกระจายอย่างมาก โดยฉายแสงในทุกทิศทาง โดยให้แสงสว่างทั่วทั้งฉากภายในระยะของแสง อย่างไรก็ตาม สปอร์ตไลท์มีผลเข้มข้น จึงสามารถกำหนดทิศทางได้แม่นยำยิ่งขึ้น เมื่อเปิดสปอร์ตไลท์ที่ผ่านการรับรอง จะสามารถโฟกัสไปที่วัตถุเฉพาะและขจัดแสงสะท้อนได้

• มุมกระจายแสง

มุมกระจายแสงเรียกอีกอย่างว่ารูปแบบกระจายแสงซึ่งเป็นความแตกต่างหลักของฟลัดไลท์และสปอร์ตไลท์ คือระดับความกว้างที่แสงเปล่งหรือกระจาย กล่าวคือ เป็นมุมที่เกิดขึ้นระหว่างจุดตรงข้ามของแกนลำแสงซึ่งความเข้มลดลงเหลือ 50% ของความเข้มสูงสุด มุมกระจายแสงของสปอร์ตไลท์จะแคบและโดยทั่วไปจะมีความกว้างน้อยกว่า 45 องศา แต่ฟลัดไลท์ให้มุมลำแสงกว้างกว่า 45 องศาและสูงสุดประมาณ 120 องศา

แต่การรู้เพียงมุมกระจายแสงเท่านั้นไม่เป็นประโยชน์เสมอไป การรับทราบความกว้างของลำแสงเป็นฟุตจากระยะที่กำหนดจะเป็นประโยชน์มากกว่าสำหรับการเลือก มีสูตรที่สามารถช่วยคุณได้

มุมกระจายแสง x 0.018 x ระยะห่างจากหลอดไฟ = ความกว้างของลำแสง

ตัวอย่างเช่น หากคุณมีฟลัดไลท์ 120 องศา ห่างจากหลอดไฟ 10 ฟุต คุณจะทราบความกว้างของลำแสงได้ด้วยการคำนวณดังนี้

120 องศา x 0.018 x 10 ฟุต = กว้าง 21.6 ฟุต

หรือถ้าสปอร์ตไลท์ของคุณมีมุมกระจายแสง 40 องศาและอยู่ห่างจากหลอดไฟ 20 ฟุต ความกว้างของลำแสงคือ 14.4 ฟุต นี่คือวิธีการคำนวณความกว้างของลำแสง:

40 องศา x 0.018 x 20 ฟุต = กว้าง 14.4 ฟุต

• การใช้งานให้เหมาะสม

ฟลัดไลท์ใช้สำหรับให้แสงสว่างในพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น ทางเดิน โกดังสนามกีฬาที่จอดรถ ฯลฯ สปอร์ตไลท์ใช้สำหรับเน้นพื้นที่ขนาดเล็ก เช่น วัตถุจัดแสดง โฆษณา นิทรรศการ งานแสดงสินค้า รูปปั้น และอื่นๆ พูดง่ายๆ ก็คือ ฟลัดไลท์เหมาะสำหรับแสงกระจายกว้างสำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่ ในขณะที่สปอร์ตไลท์เหมาะสำหรับจุดที่ต้องการให้แสงสว่างเฉพาะ

• แบบไหนดีกว่าสำหรับคุณ

การเลือกใช้ฟลัดไลท์หรือสปอร์ตไลท์ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณและส่วนใหญ่จะเป็นหลอดไฟ LED โปรดทราบว่าไม่ควรใช้ฟลัดไลท์หรือสปอร์ตไลท์แยกกันเท่านั้น เนื่องจากทั้งคู่มีข้อดีและข้อเสีย การใช้ฟลัดไลท์ร่วมกับสปอร์ตไลท์ร่วมกันจะมีประโยชน์มากขึ้นในการปรับปรุงเอฟเฟกต์การส่องสว่างและเพิ่มความน่าสนใจให้กับภาพ ทุกส่วนของพื้นที่มีความต้องการแสงสว่างในตัวเอง ตัวอย่างเช่น ห้องโถงและทางเดินของนิทรรศการต้องการแสงที่ท่วมและแสงที่สม่ำเสมอเพื่อให้พื้นที่สว่างขึ้น แต่การจัดแสดงต้องการแสงที่ชัดเจนและชัดเจนมากขึ้นเพื่อแยกความแตกต่างจากพื้นหลัง ดังนั้น การทราบข้อกำหนดของการใช้งานจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเลือกของคุณ พิจารณาว่าคุณต้องการเอฟเฟกต์แสงแบบใด จากนั้นจึงตัดสินใจเลือกอุปกรณ์ติดตั้งฟลัดไลท์หรือสปอร์ตไลท์ที่เหมาะกับการใช้งานของคุณ

 

สปอร์ตไลท์ LED VS ฟลัดไลท์ LED อันไหนดีกว่ากัน

   

สปอร์ตไลท์ LED VS ฟลัดไลท์ LED อันไหนดีกว่ากัน

 

สปอร์ตไลท์ LED VS ฟลัดไลท์ LED อันไหนดีกว่ากัน

ทุกวันนี้ ไฟ LED ถูกใช้อย่างแพร่หลายในการใช้งานที่หลากหลาย เช่น ถนน ร้านค้าปลีก คลังสินค้า ที่จอดรถ สนามกีฬา ฯลฯ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ไฟ LED ประเภทต่างๆ อาจรวมกันในแอพพลิเคชั่นเดียว สปอร์ตไลท์และฟลัดไลท์เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับกลางแจ้ง เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงและต้นทุนพลังงานต่ำ แต่ดูเหมือนว่าจะสร้างความสับสนให้กับความแตกต่างของสปอร์ตไลท์และฟลัดไลท์ คุณอาจสงสัยว่าอันไหนดีกว่าสำหรับการใช้งานของคุณเช่นกัน เราอยากจะแนะนำว่าสปอร์ตไลท์และฟลัดไลท์คืออะไร และคุณสมบัติความแตกต่างของสิ่งเหล่านี้ เรามาทำความเข้าใจกัน

ประการแรก เราต้องจำไว้ว่าสปอร์ตไลท์และฟลัดไลท์เป็นรูปแบบแสงสองแบบ ซึ่งหมายถึงการฉายแสง ในบางสถานการณ์ มีสปอร์ตไลท์และฟลัดไลท์ผสมกัน ส่งผลให้เราสามารถนำเอาประโยชน์ของมันใช้แบบไม่เต็มที่

 

สปอร์ตไลท์คืออะไร

สปอร์ตไลท์มีมุมกระจายแสงที่แคบน้อยกว่า 45 องศา มุมลำแสงของสปอร์ตไลท์ส่วนใหญ่มีความกว้างไม่เกิน 25 องศา ดังนั้นสปอร์ตไลท์จึงมีความเข้มข้นมากกว่าฟลัดไลท์และง่ายต่อการควบคุมทิศทางการส่องสว่างเฉพาะจุดที่คุณต้องการ สปอร์ตไลท์มักใช้สำหรับไฟตกแต่ง การส่องสว่างที่เข้มข้นเน้นไปที่จุดไหนจุดหนึ่งที่แสดงและให้บรรยากาศที่แตกต่างกัน ทั้งในร่มและกลางแจ้งใช้สปอร์ตไลท์ เช่น สวนโฆษณา นิทรรศการ งานแสดงสินค้า รูปปั้น และอื่นๆ

 

ฟลัดไลท์คืออะไร

ฟลัดไลท์มีมุมกระจายแสงกว้างและความเข้มของแสงสูง เป็นแสงสว่างที่มีช่วงการแพร่กระจายของลำ แสง 45 องศาถึงประมาณ 120 องศา โคมไฟฟลัดไลท์มีการกระจายแสงสูงและไม่มีทิศทาง ส่งผลให้เกิดเงาที่นุ่มนวลและโปร่งใส ซึ่งจะจางลงอย่างช้าๆ เมื่อให้แสงสว่างแก่วัตถุ สามารถส่องสว่างพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นมุมลำแสงกว้าง โคมไฟฟลัดไลท์ส่วนใหญ่ใช้ในพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น ทางเดินรถ สนามกีฬา โกดัง สนามกีฬา ฯลฯ โดยสามารถส่องสว่างพื้นที่ได้อย่างสมบูรณ์ในสภาพแสงน้อย

 

ความแตกต่างของสปอร์ตไลท์และฟลัดไลท์

แบบฟอร์มการส่องสว่าง

โคมไฟฟลัดไลท์มีการกระจายและกระจัดกระจายอย่างมาก โดยฉายแสงในทุกทิศทาง โดยให้แสงสว่างทั่วทั้งฉากภายในระยะของแสง อย่างไรก็ตาม โคมไฟสปอร์ตไลท์มีผลเข้มข้น จึงสามารถกำหนดทิศทางได้แม่นยำยิ่งขึ้น เมื่อเปิดสปอร์ตไลท์ที่ผ่านการรับรอง จะสามารถโฟกัสไปที่วัตถุเฉพาะและขจัดแสงสะท้อนได้

 

มุมกระจายแสง

มุมกระจายแสงเรียกอีกอย่างว่ารูปแบบลำแสงซึ่งเป็นความแตกต่างหลักของสปอร์ตไลท์และฟลัดไลท์ คือระดับความกว้างที่แสงเปล่งหรือกระจาย เป็นมุมที่เกิดขึ้นระหว่างจุดตรงข้ามของแกนลำแสงซึ่งความเข้มลดลงเหลือ 50% ของความเข้มสูงสุด มุมกระจายของสปอร์ตไลท์แคบและโดยทั่วไปจะมีความกว้างน้อยกว่า 45 องศา แต่โคมไฟฟลัดไลท์ ให้มุมกระจายแสงกว้างกว่า 45 องศาและสูงสุดประมาณ 120 องศา

แต่การรู้เพียงมุมกระจายแสงเท่านั้นไม่เป็นประโยชน์เสมอไป การรับทราบความกว้างของลำแสงเป็นฟุตจากระยะที่กำหนดจะเป็นประโยชน์มากกว่าสำหรับการเลือก มีสูตรที่สามารถช่วยคุณได้

 

มุมลำแสง x 0.018 x ระยะห่างจากหลอดไฟ = ความกว้างของลำแสง

ตัวอย่างเช่น หากคุณมีไฟฟลัดไลต์ 120 องศา ห่างจากหลอดไฟ 10 ฟุต คุณจะทราบความกว้างของลำแสงได้ด้วยการคำนวณดังนี้120

 

120 องศา x 0.018 x 10 ฟุต = กว้าง 21.6 ฟุต

หรือถ้าสปอร์ตไลท์ของคุณมีมุมลำแสง 40 องศาและอยู่ห่างจากหลอดไฟ 20 ฟุต ความกว้างของลำแสงคือ 14.4 ฟุต นี่คือวิธีการคำนวณความกว้างของลำแสง

 

40 องศา x 0.018 x 20 ฟุต = กว้าง 14.4 ฟุต

 

การเลือกใช้งาน

โคมไฟฟลัดไลท์ ใช้สำหรับให้แสงสว่างในพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น ทางเดิน โกดัง สนามกีฬา ที่จอดรถ ฯลฯ สปอร์ตไลท์ ใช้สำหรับเน้นพื้นที่ขนาดเล็ก เช่น วัตถุจัดแสดง โฆษณา นิทรรศการ งานแสดงสินค้า รูปปั้น และอื่นๆ พูดง่ายๆ ก็คือ ฟลัดไลท์เหมาะสำหรับแสงน้ำท่วมสำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่ ในขณะที่สปอร์ตไลท์เหมาะสำหรับจุดที่ต้องการให้แสงสว่างเฉพาะ

 

อันไหนดีกว่าสำหรับการใช้งานที่เป็นประโยชน์

การเลือกสปอร์ตไลท์หรือไฟฟลัดไลท์ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ โปรดทราบว่าไม่ควรใช้สปอร์ตไลท์ฟหรือฟลัดไลท์แยกกันเท่านั้น เนื่องจากทั้งคู่มีข้อดีและข้อเสีย การใช้สปอร์ตไลท์ร่วมกับไฟฟลัดไลท์ร่วมกันจะมีประโยชน์มากขึ้นในการใช้ร่วมกันจะทำให้เอฟเฟกต์การส่องสว่างและเพิ่มความน่าสนใจให้กับภาพ ทุกส่วนของพื้นที่มีความต้องการแสงสว่างในตัวเอง ตัวอย่างเช่น ห้องโถงและทางเดินของนิทรรศการต้องการแสงที่กระจายกว้างและแสงที่สม่ำเสมอเพื่อให้พื้นที่สว่างขึ้น แต่การจัดแสดงต้องการแสงที่ชัดเจนและชัดเจนมากขึ้นเพื่อแยกความแตกต่างจากพื้นหลัง ดังนั้น การทราบข้อกำหนดของการใช้งานจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการที่คุณเลือก พิจารณาว่าคุณต้องการเอฟเฟกต์แสงแบบใด จากนั้นจึงตัดสินใจเลือกโคมไฟที่เหมาะกับการใช้งานของคุณ