7 ประเภทของ หลอดไฟ มีอะไรบ้าง ต่างกันอย่างไร
ทุกวันนี้ หลอดไฟ พัฒนาไปเร็วมาก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่ถ้าความนิยมในปัจจุบัน คงต้องยกให้ หลอดไฟ LED แต่อย่าพึ่งเชื่อผมจนกว่าจะรู้ว่าหลอดไฟแต่ละประเภทมีข้อแตกต่างกันอย่างไร จากบทความนี้ วันนี้เราจะมาประเภทของหลอดไฟ และการใช้งานของหลอดไฟชนิดต่างๆ
ในปัจจุบันประเทศเรามีการใช้หลอดไฟมากมายหลายแบบจนไม่รู้จะเลือกใช้แบบไหน ก็อย่างที่บอกละครับมันพัฒนาไปตามยุคตามสมัยบางชนิดนิยมใช้มาเป็นระยะเวลายาวนาน บางชนิด ยกตัวอย่าง หลอด LED ก็เพิ่งมานิยมใช้งานเมื่อไม่กี่ปี และเนื่องจากมีการพัฒนานวัตกรรมมากมายเกี่ยวกับด้านการประหยัดพลังงานจนกลายมาเป็น หลอดไฟ LED ที่นิยมใช้งานกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เราไปรู้จักหลอดไฟแต่ละประเภทกันเลย
1.หลอดไส้
หลายๆคนคงรู้จักหลอดประเภทนี้ในอีกชื่อหนึ่ง คือ “หลอดวงเทียน” เพราะมีแสงแดงๆคล้ายแสงเทียน เป็นหลอดไฟที่มีการใช้งานมานานมาก หลายๆคนน่าจะคุ้นเคยกับหลอดชนิดนี้กันเป็นอย่างดี มีทั้งชนิดแบบแก้ว และฝ้า ไส้หลอดทำมาจากทังสเตนให้ความร้อนสูง หลักการทำงานคือกระแสไฟฟ้าจะผ่านไส้หลอดเปลี่ยนจากพลังงานไฟฟ้าเป็นความร้อน เมื่อไส้หลอดร้อนจะเปล่งแสงออกมา หลอดไส้นั้นมีข้อเสียคือเมื่อมีความร้อนสะสมมากๆ อายุการใช้งานจะยิ่งสั้นลง โดยกินไฟมากเนื่องจากสูญเสียไปกับความร้อนที่เกิดขึ้น
2. หลอดฟลูออเรสเซนต์
ในทุกวันนี้ก็ยังถือว่าเป็นที่นิยมใช้กันอยู่ หลอดฟลูออเรสเซนต์ ให้แสงสว่างมากกว่าหลอดไส้ถึง 5 เท่า อายุการใช้งานนานกว่าหลอดไส้ประมาณ 7-8 เท่าตัว โดยตัวหลอดมีไส้โลหะทังสเตนติดอยู่ที่ปลายทั้ง 2 ข้าง ของหลอด ผิวภายในฉาบด้วยสารเรืองแสง โดยมีการใส่ไอปรอทไว้เล็กน้อย หลักการทำงานคือเมื่อกระแสไฟฟ้าใหลผ่านปรอทจะคายพลังงานในรูปแบบรังสีอัลตราไวโอเลตเมื่อกระทบสารเรืองแสงที่ฉาบไว้หลอดก็จะเปล่งแสงออกมา อายุการใช้งานมีตั้งแต่ 6000 ถึง 20000 ชั่วโมง
3.หลอดฮาโลเจน
พัฒนามาจากหลอดไส้ที่ใช้ก๊าซฮาโลเจนบรรจุภายในทำให้ทนทานกว่าหลอดไส้ปกติให้ค่าความถูกต้องของสีถึง 100 % มักใช้กับพื้นที่ที่ต้องการแสงสว่างเป็นพิเศษ เช่นพื้นที่งานแสดงสินค้า มุมอับของบ้านห้องทำงาน อายุการใช้งาน 1500-3000 ชั่วโมง
4. หลอดแสงจันทร์ หรือ หลอดไฟไอปรอท
หลอดประเภทนี้ทำงานด้วยการปล่อยประจุความเข้มข้นสูงหลักการทำงานคือใช้ไฟฟ้าแรงสูงกระโดดผ่านไอปรอทที่อยู่ภายในหลอดเพื่อให้เกิดแสงสว่าง มีอายุการใช้งานประมาณ 24000 ชม มีค่าความถูกต้องของสีค่อนข้างต่ำ ให้แสงสีขาวค่อนข้างเข้ม แสงจะออกนวลมีปริมาณแสงสว่างต่อวัตต์สูงกว่าหลอดชนิดอื่นๆ แสงส่องสว่างได้ไกลเหมาะกับ โรงงาน โกดังสินค้า สนามกีฬา
5.หลอดเมทัลฮาไลด์
เป็นหลอดที่จัดอยู่ในกลุ่มให้ความเข้มแสงสูง หลักการทำงานคือ Arc ไฟฟ้าวิ่งผ่านก๊าซในโคมไฟ หลอด arc ที่มีขนาดเล็กจะผสมกับแรงดันสูงของอาร์กอน ปรอทและความหลากหลายของโลหะผสมกัน ทำให้เกิดสีสันต่างๆ ความร้อนที่เกิดขึ้นจากการแตกตัวของปรอทและไอโลหะที่ผลิตไฟนี้จะทำให้ อุณหภูมิและความดันเพิ่มขึ้น หลอดเมทัลฮาไลด์จึงทำงานภายใต้ความดันและอุณหภูมิสูง ส่วนใหญ่จะใช้ส่องสว่างในสนามกีฬา ใช้เป็นไฟสาดอาคารเพื่อเน้นความสวยงาม โดยมีอายุการใช้งานถึง 24000 ชั่วโมง
6. หลอดหลอดตะเกียบ
การทำงานคล้ายหลอดฟลูออเรสเซนต์ ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาก็คือ”หลอดตะเกียบ” ซึ่งมีแบบที่บัลลาสต์ในตัว และแบบอยู่ภายนอก มีรูปร่างที่หลากหลาย เช่นแบบเกลียว แบบหลอด แบบหลอดสี่แถวเป็นต้น โดยจะมีอายุการใช้งานที่มากกว่าหลอดฟลูออเรสเซนต์
7. หลอดไฟ LED
หลอดไฟ LED เป็นหลอดที่ได้รับความนิยมที่สุดในปัจจุบัน แต่ประหยัดไปมากที่สุด ถือว่าได้รับการพัฒนามาจากเทคโนโลยีในยุคใหม่ๆ หลักการทำงานจะต่างจากหลอดทั่วๆไป โดยแสงสว่างเกิดขึ้นจากการเคลื่อนของอิเล็กตรอนภายในสารกึ่งตัวนำ หลอด LED ลดจุดด้อยต่างๆ ของหลอดไฟที่ผ่านมา เช่น เรื่องความร้อนเนื่องจากไม่มีการเผาไส้หลอด มีอายุการใช้งานที่นาน 50000 ชั่วโมง ใช้ Watt น้อยแต่ให้แสงสว่างมากกว่า ถนอมสายตา เนื่องจากมีการกระพริบของหลอดน้อยมาก ไม่มีสาร UV ทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเนื่องจากไม่มีการใช้สารปรอท ซึ่งปัจจุบัน มีขายกันอย่างแพร่หลาย แต่ควรเลือกแบรนด์ที่ได้รับความนิยม และมี มอก อย่างถูกต้องอย่างแบรนด์ Richled
ถ้าบอกกันตรงๆ ก็คงจะเถียงไม่ได้ว่าในปัจจุบันนี้ ต้องยกให้ หลอดไฟ LED เพราะมีการพัฒนากันอย่างต่อเนื่อง เราแนะนำให้คุณรีบเปลี่ยนมาใช้ หลอดไฟ LED เนื่องจากเห็นผลทันทีที่ติดตั้งครั้งแรก ประหยัดมากและราคาก็ไม่ได้แพงจนเอื้อมไม่ถึง สนใจ หลอดไฟ LED สามารถติดต่อเราได้ Rich แสงแห่งคุณภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น