วันอังคารที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2565

กรุงเทพ ปลอดคาร์บอน ทำได้จริงหรือไม่

 

กรุงเทพ ปลอดคาร์บอน ทำได้จริงหรือไม่

กรุงเทพ ปลอดคาร์บอน ทำได้จริงหรือไม่

ความฝันของคนกรุงเทพในยุคที่เต็มไปด้วยมลพิษและความล้มเหลวของการบริหารประเทศของนักการเมืองบางกลุ่มที่ไม่สนใจเรื่องมลพิษ และปากท้องของคน กทม เลย ล่าสุดคนกรุงมีความหวังขึ้นมาอีกครั้งหลังได้ผู้ว่า กทม คนใหม่ อย่างคุณ ชัชชาติ เข้ามารับตำแหน่ง ซึ่งมันสามารถเป็นไปได้แต่ต้องใช้ระยะเวลาในการทำให้ Bangkok Net Zero Carbon: กรุงเทพ ปลอดคาร์บอน เกิดขึ้นจริง และสิ่งที่ต้องทำมีอะไรบ้าง ใช้เงินเท่าไหร่ ลองมองง่ายๆ ก็เหมือนกับการพลิกโฉม กทม ให้น่าอยู่ ได้โดยเร็วที่สุด

ในปัจจุบัน ราคาน้ำมัน Gasohol 95 พุ่งทะลุ 44.50 บาทแล้ว เมื่อเช้าวันที่ 8.6.65 นี้นี่เอง มันเหมือนการตอกย้ำคนไทยถึงความย่ำแย่ของรัฐบาลชุดนี่ที่ล้มเหลวอย่างชัดเจน ซึ่งหนึ่งในการปลดแอกคนไทย คนกทม. จาก น้ำมันแพง ก๊าซแพง PM2.5 และเงินเฟ้อต่างๆ มาลองคำนวณเบื้องต้นกันดูว่าเป็นฝันที่มีความเป็นไปได้หรือไม่ และถ้าเป็นไปได้ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่

All Bangkok Net Zero Carbon จะแตกต่างจากนโยบาย "คาร์บอนคุมได้ กทม.ปลอดคาร์บอน (BMA Net Zero)" ของ อ.ชัชชาติ ซึ่งจะเป็นนโยบายที่ทำนำร่องเฉพาะหน่วยงานในสังกัดของกทม. มีเป้าคือ 2030 ส่วนถ้าจะทำทั้งกรุงเทพฯ นั้นจะเป็นอีกระดับพลังคอสมิกนึงเลย เร็วสุดก็น่าจะ 2040 - 2050 หรือถ้าเปรียบยุคหลังธานอสครับ ส่วนของเราก็จะต้องเป็นเหตุการณ์ในยุค "หลัง ชัชชาติ สิทธิพันธุ์"

สิ่งที่ต้องทำเพื่อให้ กทม.ปลอดคาร์บอน

  1. รถยนต์ทุกคันทั้งใหม่และเก่าเป็นรถยนต์ EV
  2. มอเตอร์ไซค์ ตุ๊กๆ ทุกคันทั้งใหม่และเก่าเป็น EV
  3. รถเมย์ รถบัส รถบรรทุก ทุกคันทั้งใหม่และเก่าเป็น EV
  4. เปลี่ยนเตาแก๊สทั้งหมดเป็นเตาไฟฟ้า
  5. ไฟฟ้าทั้งหมดมาจากพลังงานหมุนเวียน อย่างระบบ โซล่ารูฟท็อป | โซล่าเซลล์

การคำนวณ(เบื้องต้น):

  1. รถยนต์ 4,500,000 คัน วิ่งปีละ 20,000 km/คัน อัตราสิ้นเปลือง 7.00 km/kWh ต้องการไฟฟ้าทั้งหมด 12,857,142,857 kWh/ปี
  2. รถบรรทุก รถบัส 187,000 คัน วิ่งปีละ 50,000 km/คัน อัตราสิ้นเปลือง 0.67 km/kWh ต้องการไฟฟ้าทั้งหมด 14,025,000,000 kWh/ปี.
  3. รถจักรยานยนต์ 3,600,000 คัน วิ่งปีละ 20,000 km/คัน อัตราสิ้นเปลือง 40 km/kWh ต้องการไฟฟ้าทั้งหมด 1,800,000,000 kWh/ปี
  4. การใช้ไฟฟ้าในเขตกทม.ปัจจุบัน 36,966,000,000 kWh/ปี ความต้องการไฟฟ้ารวมทั้ง 4 ข้อ 65,648,142,857 kWh/ปี

ต้องติดตั้ง โซล่ารูฟท็อป ใช้พื้นที่เท่าไหร่ และใช้เงินเท่าไหร่:

โซล่าเซลล์ 1 MW ผลิตไฟฟ้าได้ 1,450,000 kWh/ปี เงินลงทุน 25 ล้านบาท ใช้พื้นที่ 7 ไร่บนพื้น ถ้าเป็นหลังคาใช้ 6,000 ตร.ม.

ผลการคำนวณ:

  1. ต้องใช้ โซล่าเซลล์ 45,275 MW
  2. เงินลงทุนเฉพาะส่วนของโซล่าเซลล์ 1,131,865 ล้านบาท
  3. ถ้าติดตั้ง แผงโซล่าเซลล์ บนดินใช้พื้นที่ทั้งหมด 316,922 ไร่
  4. ถ้าติดตั้ง แผงโซล่าเซลล์ บนหลังคาใช้พื้นที่ 271,647,488 ตร.ม. หรือเทียบเท่าหลังคาบ้านประมาณ 27 ล้านหลัง
  5. เงินลงทุนส่วนอื่นๆเช่นแบตเตอรี่ สมาร์ทกริด น่าจะ >2 ล้านล้าน บาท

ความเป็นไปได้และความคุ้มค่า:

  1. ติดตั้ง โซล่ารูฟ บนพื้นดินคิดเป็นพื้นที่ 32% ของทั้งกทม. แต่แค่ 0.1% ของทั้งประเทศ ที่ดินกทม.ไม่พอแน่นอน แต่ติดตั้ง ระบบโซล่ารูฟท็อป ใน ตจว.และขายเข้ากทม.ได้เหลือเฟือ
  2. ติดตั้ง โซล่าเซลล์ บนหลังคาบ้าน ไม่พอเพราะทั้ง กทม มีบ้านแค่ 24 ล้านหลัง และอาจจะใช้ได้แค่ครึ่งเดียว บ้างก็เป็นคอนโด แต่ถ้าใช้ Warehouse, ห้าง, โรงงาน จะช่วยได้อีกมาก
  3. ความคุ้มค่า คือ ประหยัดน้ำมันได้อย่างน้อยปีละ 500,000 ล้านบาท ที่ราคาน้ำมันลิตรละ 40 บาท และยังประหยัดค่าก๊าซ ถ่านหิน น้ำมันเตา
  4. ผลจากข้อ 1-3 จะทำให้ดุลบัญชีเดินสะพัดดีขึ้นมาก
  5. คืนทุนไม่น่าเกิน 6 ปี แล้วก็จะเป็นอิสระกันจากราคาแก๊สและน้ำมัน

บทสรุป ความยาก และความท้าทาย:

  1. ใช้กำลังคน กำลังสมอง และเวลามหาศาลในการติดตั้ง ระบบโซล่ารูฟท็อป 45,275 MW
  2. งานวิศวกรรมไฟฟ้าและระบบ Smart Grid จะยากมากๆ อย่างน้อยต้องมี 20 ปี
  3. ต้องหาเงินประมาณ 3 ล้านล้านบาท
  4. กทม. อาจต้องทำเรื่องใบอนุญาตก่อสร้างระดับ 2-3 ล้านใบ เพราะประเทศเราอยู่ในช่วงล่าหลังเพราะรัฐบาลเผด็จการ ซึ่งใช้เวลา 10 - 20 ปี ระบบปัจจุบันไม่มีทางเร็วได้ขนาดนั้น
  5. จะพึ่งแต่ ชัชชาติ ไม่พอแน่นอน น่าจะต้องใช้ความช่วยเหลือของ รัฐบาล ลุงตู่ (แต่คงยาก ฝันไปก่อน)

โดยสรุปคือ All Bangkok Net Zero Carbon มีความเป็นไปได้ทางเศรษฐศาสตร์ ฟิสิกส์ และเทคโนโลยี ถ้าจะทำทำได้แน่นอน แต่ก็ยากมากๆ ใช้เวลา และเหนื่อยมากๆแน่นอน แต่คน กทม.ก็สามารถที่จะฝันได้ และก็ถ้าตั้งใจและร่วมมือกันก็มีโอกาสทำสำเร็จ โดยส่วนตัวก็มองไว้ว่ายังไงไม่วันใดวันหนึ่งก็ต้องช่วยกันทำครับ

แต่ก็น่าจะเป็นจักรวาลในช่วงยุค "หลังชัชชาติ" ซึ่งแม้แต่ผมเองก็ไม่มั่นใจว่าจะมีอายุยืนยาวไปถึงตอนนั้น  แต่ยังไงก็ตาม คนรุ่นนี้ รุ่นผม และก่อนหน้า ก็ต้องเต็มที่ ขอแค่วางรากฐานที่ดีเอาไว้ก็จะช่วยคนรุ่นต่อไปได้มากครับ จะมีวันที่กทม.อากาศกลับมาใสสะอาดอีกครั้ง วันที่ราคาน้ำมันและก๊าซจะไม่ส่งผลกระทบกับคนรุ่นลูกหลานเราอีกต่อไป แต่อย่างน้อยเราก็ได้เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมง จากคนรุ่นใหม่ที่ลุกขึ้นมาต่อต้าน เผด็จการแล้ว แต่ก็คงต้องใช้เวลาอีกนาน เพราะมันฝังลึกอยู่ในระบบของประเทศไทยไปแล้วครับ

CR. Sunt Srianthumrong

รับติดตั้งโซล่ารูฟท็อปครบวงจร

https://www.enrichenergy.co.th/โซล่ารูฟท็อป/

https://www.enrichenergy.co.th/โซล่าเซลล์/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สินเชื่อโซล่าเซลล์ การลงทุนสู่อนาคตพลังงานสะอาดและความยั่งยืน

  สินเชื่อโซล่าเซลล์ การลงทุนสู่อนาคตพลังงานสะอาดและความยั่งยืน สินเชื่อโซล่าเซลล์ การลงทุนสู่อนาคตพลังงานสะอาดและความยั่งยืน  การพัฒนาและกา...